บอร์ด ESP32 เป็นไมโครคอนโทรลเลอร์อเนกประสงค์ที่มี Wi-Fi + Bluetooth ในตัว ราคาคุ้มค่า ทำให้เหมาะมากกับการใช้งานระบบ “สมาร์ท” ทั้งในบ้าน ที่ทำงาน หรือแม้แต่ในโครงงานวิจัย ต่อไปนี้คือแนวทาง “การนำ ESP32 ไปใช้ในชีวิตจริง” ที่น่าสนใจและทำได้จริง
ใช้ควบคุมอุปกรณ์ไฟฟ้าในบ้านผ่านมือถือหรืออินเทอร์เน็ต เช่น
เปิด–ปิดไฟ พัดลม หรือปลั๊กอัตโนมัติ
ตรวจวัดอุณหภูมิ–ความชื้นในบ้านด้วย
DHT11 หรือ DHT22 แล้วส่งข้อมูลไปยังแอป
สั่งงานด้วยเสียง (ผ่าน Google Assistant / Alexa ผ่าน MQTT หรือ Blynk)
🧠 ตัวอย่าง:
“ระบบควบคุมไฟบ้านผ่าน Wi-Fi ด้วย
ESP32 + รีเลย์ + Blynk”
🚗 2. ด้านยานยนต์และการซ่อมบำรุง
ESP32 สามารถตรวจจับหรือควบคุมอุปกรณ์ในรถหรือโรงซ่อมได้ เช่น
ระบบเตือนระดับน้ำมันหรืออุณหภูมิเครื่องยนต์
ระบบล็อกประตูอัตโนมัติหรือกันขโมย (ใช้เซ็นเซอร์สั่นสะเทือน)
การติดตามตำแหน่ง GPS และส่งข้อมูลผ่าน Wi-Fi
🧠 ตัวอย่าง:
“กล่องตรวจจับอุณหภูมิห้องเครื่องพร้อมแจ้งเตือนผ่าน telegram bot api”
🌿 3. การเกษตรอัจฉริยะ (Smart Farm)
ESP32 ใช้ตรวจวัดและควบคุมสิ่งแวดล้อมในฟาร์ม เช่น
ตรวจวัดอุณหภูมิ ดิน ความชื้น และแสง
เปิด–ปิดปั๊มน้ำหรือพ่นหมอกอัตโนมัติ
ส่งข้อมูลขึ้น Cloud เช่น Thingspeak หรือ Firebase
🧠 ตัวอย่าง:
🧍 4. โครงงานด้านสุขภาพหรือการดูแลผู้สูงอายุ
ระบบตรวจจับการเคลื่อนไหวและส่งแจ้งเตือนกรณีล้ม
วัดชีพจร อุณหภูมิร่างกาย และส่งข้อมูลไปยังมือถือ
แจ้งเตือนผ่าน Telegram
🧠 ตัวอย่าง:
“เครื่องวัดชีพจร IoT แจ้งเตือนผ่าน telegram”
🏫 5. ด้านการศึกษาและวิจัย
ใช้เป็นเครื่องมือทดลองพื้นฐานในห้องเรียนหรือโครงงาน เช่น
เรียนรู้ IoT, Automation, และระบบฝังตัว
ใช้เป็นส่วนหนึ่งของระบบเตือนภัย (Early Warning System)
ใช้สร้างต้นแบบ (Prototype) ของนวัตกรรม เช่น เครื่องชงกาแฟอัตโนมัติ
🧠 ตัวอย่าง:
“เครื่องชั่งน้ำหนักและแสดงข้อมูลบนแอปมือถือผ่าน ESP32”
🌐 6. การเชื่อมต่อกับ Cloud / AI
ESP32 สามารถส่งข้อมูลขึ้น Cloud เพื่อประมวลผลหรือทำ Machine Learning ได้ เช่น
ใช้ Google Sheets หรือ Firebase เก็บข้อมูล
ใช้ TensorFlow Lite เพื่อให้ ESP32 “เรียนรู้” เช่น จำแนกเสียงหรือรูปแบบการเคลื่อนไหว
🧠 ตัวอย่าง:
“ระบบรู้จำเสียงปรบมือ เปิดไฟอัตโนมัติด้วย ESP32 + TensorFlow Lite”